วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เปิดตำนาน 3 มหาอสูรกาย Leviathan Behemoth Ziz

Leviathan (เลวีอาธาน)

ชื่อมีความหมายตามตัวว่า ขด หรือ หมุนวนเป็นเกลียว เลวีอาธานเป็นอสูรกายในตำนาน เป็น 1 ใน 3 มหาปีศาจดึกดำบรรพ์ยักษ์ ซึ่งได้แก่ จ้าวสมุทร เลวีอาธัน / จ้าวปฐพี เบเฮโมท และ จ้าวนภา ซิซ ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีการกล่าวถึงเจ้าอสูรกายจ้าวแห่งมหาสมุทรนี้มากมาย ซึ่งพบได้หลักๆ 5 ตอนดังนี้พระองค์ทรงแยกทะเลด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงหักหัวมังกรในน้ำ


พระองค์ทรงทุบหัวทั้งหลายของเลวีอาธานเป็นชิ้นๆ พระองค์ประทานมันให้เป็นอาหารของคนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร(บทเพลงสดุดี บทที่ 74 ข้อ 13-14)โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระราชกิจของพระองค์มากมายจริงๆ พระองค์ทรงสร้างการงานนั้นทั้งสิ้นด้วยพระปัญญา แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติของพระองค์ทะเลอยู่ข้างโน้น ทั้งใหญ่และกว้าง ซึ่งในนั้นมีสิ่งเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วน คือ***ที่มีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่กำปั่นแล่นไปโน่นแน่ะ และเลวีอาธานที่พระองค์สร้างไว้ให้เล่นนั้น(บทเพลงสดุดี บทที่ 104 ข้อ 24-26)ในวันนั้น พระเยโฮวาห์จะทรงลงโทษด้วยพระแสงอันร้ายกาจ ยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่งของพระองค์ต่อเลวีอาธาน ซึ่งเป็นพญานาคที่ฉกกัด คือเลวีอาธานพญานาคที่ขด และพระองค์จะทรงประหารมังกรที่อยู่ในทะเล(หนังสือของอิสยาห์ บทที่ 27 ข้อ 1)"เจ้าจะลากเลวีอาธานออกมาด้วยเบ็ดได้หรือ หรือจะเอาเชือกกดลิ้นของมันลงได้เจ้าเอาเชือกสนตะพายมันได้หรือ หรือเอาหนามเจาะคางมันได้ มันจะวิงวอนต่อเจ้าเป็นอันมากหรือ มันจะพูดด้วยคำอ่อนหวานกับเจ้าหรือ มันจะทำพันธสัญญากับเจ้า เพื่อเจ้าจะรับมันเป็นบ่าวตลอดไปหรือ เจ้าจะเล่นกับมันเหมือนนก หรือเจ้าจะผูกมันไว้ให้สาวๆของเจ้าเล่นหรือ เพื่อนฝูงจะมาจับและกินมันได้หรือ เขาทั้งหลายจะแบ่งกันท่ามกลางพวกพ่อค้าหรือ เจ้าเอาฉมวกปักหนังของมัน หรือเอาหลาวแทงหัวของมันได้หรือลงมือจับมันดู เมื่อคิดถึงการต่อสู้กับมันแล้ว เจ้าจะไม่คิดทำอีกดูเถิด ความหวังของคนที่อาจสู้มันนั้นก็เป็นของเปล่า เมื่อเห็นมันเข้าเท่านั้น จะไม่ล้มลงหรือไม่มีใครดุพอที่จะไปยั่วเย้ามัน แล้วใครเล่าจะยืนมั่นต่อเราได้  ใครเล่าที่จะขัดขวางเรา ซึ่งเราจะต้องตอบสนองเขา สิ่งใดๆที่อยู่ใต้ฟ้าสวรรค์ทั้งสิ้นก็เป็นของเรา เราจะไม่งดพูดถึงอวัยวะต่างๆของมัน หรือกำลังอันแข็งกล้าของมัน หรือโครงร่างอันดีของมันใครจะถลกเสื้อชั้นนอกของมันออกได้ ใครจะแทงเข้าไปในเสื้อเกราะสองชั้นของมันได้ใครจะเปิดประตูหน้าของมันได้ ฟันของมันนั้นน่าสยดสยองโดยรอบ เกล็ดของมันอยู่อย่างทะนง แนบตัวมันสนิทเหมือนอย่างตราผนึก มันอยู่ชิดกันมาก ไม่มีลมผ่านเข้าไปได้เกล็ดเหล่านั้นต่อซึ่งกันและกัน มันเกาะติดหมด และแยกจากกันไม่ได้ การจามของมันปล่อยแสงสว่างออกมา ตาของมันเหมือนอย่างแสงอรุณรุ่งเช้า คบเพลิงออกมาจากปากของมัน ประกายไฟกระโดดออกมา ควันออกมาทางรูจมูกของมันอย่างกับมาจากหม้อหรือหม้อขนาดใหญ่ที่เดือดพล่าน ลมหายใจของมันจุดถ่านลุก เปลวเพลิงออกมาจากปากของมัน กำลังอยู่ในลำคอของมัน และความสยดสยองเต้นอยู่ข้างหน้ามัน หลืบเนื้อของมันเกาะติดกัน หล่อติดกันแน่น ทำอะไรมันไม่ได้ หัวใจของมันแข็งอย่างกับหิน เออ แข็งเหมือนอย่างแท่นหินโม่ เมื่อมันลอยขึ้นมา ผู้ทรงอานุภาพก็กลัวมัน พอมันแว้ง เขาทั้งหลายก็มีใจฝ่อเสียแล้ว ถึงคนใดเอาดาบลองแทงมัน ก็ต่อต้านมันไม่ได้ ไม่ว่าหอก หรือแหลน หรือหอกซัด มันนับเหล็กว่าเป็นฟาง และทองเหลืองว่าเป็นไม้ผุ ลูกธนูทำให้มันหนีไปไม่ได้ หินลูกสลิงก็กลายเป็นตอข้าว ไม้กระบองก็นับเป็นตอข้าวด้วย มันหัวเราะเยาะการซัดหอก เบื้องล่างของมันคมอย่างกับเศษหม้อแตก มันเหยียดตัวออกบนเลนเหมือนแหลมคม มันทำให้น้ำลึกเดือดเหมือนหม้อ มันทำให้ทะเลเหมือนหม้อน้ำมันทามันละทางแวบวาบไว้ข้างหลัง ทำให้ใครๆคิดว่ามหาสมุทรผมหงอก บนแผ่นดินโลก ไม่มีอะไรเหมือนมัน เป็นสิ่งที่ถูกสร้างไม่ให้รู้จักความกลัว มันเห็นทุกสิ่งที่อยู่สูง มันเป็นกษัตริย์เหนือบรรดา***ที่สง่า"(หนังสือของโยบ บทที่ 40)เลวีอาธาน ใน คริสต์ศาสนาในคริสต์ศาสนา เชื่อว่า เลวีอาธาน คืออสูรกายปีศาจยักษ์ในยุคดึกดำบรรพ์ ที่เกี่ยวข้องกับซาตานและความชั่วร้าย และเชื่อว่าน่าจะเป็นอสูรกายตัวเดียวกับราหับในหนังสือของอิศยาห์ ขณะที่นักวิชาการพระคัมภีร์ เชื่อว่า เลวีอาธาน เป็นสื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพของความยุ่งเหยิงไร้ระเบียบในยุคแรก (Chaos) เป็นการสื่อถึงพลังงานแห่งความวุ่นวาย ความโกลาหล และความเอาแน่เอานอนไม่ได้ที่เกิดขึ้นกับกาลเวลาในยุคแรกและบนผืนน้ำ ขณะที่ในคัมภีร์ศาสตร์มนต์ดำอย่างพวกกรีมอร์ ก็มักมีการกล่าวถึงเลวีอาธานอยู่บ่อยๆ  ส่วนในคัมภีร์สารระบบรองของอีโนค มีการกล่าวถึง เลวีอาธาน โดยได้มีการระบุว่า เลวีอาธาน เป็นอสูรกายเพศเมีย ขณะที่อสูรกายเพศผู้คือ เบเฮโมท ที่เป็นด้านตรงข้ามกันในบางแหล่งข้อมูล ยังเชื่อว่าเลวีอาธานเคยเป็นทูตสวรรค์ชั้นเซราฟิมมาก่อนด้วย จากผลงานเขียนของ สาธุคุณ เซบาสเตียน มีคาแอลลิส  “บัลเบริธปีศาจที่ปรากฏมาเข้าสิงและล่อลวงซิสเตอร์ แมดเดอลีน และเลวีอาธาน เป็นชื่อของหนึ่งในปีศาจนั้นส่วนข้อมูลของนักบุญ โทมัส อไควนัส ได้ระบุว่า เลวีอาธาน เป็นหนึ่งในปีศาจแห่งขุมนรก เป็นปีศาจประจำบาปแห่งความริษยา (Sin of Envy) 
เลวีอาธาน ในฐานะ ***ประหลาดในพระคัมภีร์ บทหนังสือของโยบ มีการกล่าวถึงเลวีอาธานและเบเฮโมท ร่วมกันกับ***อื่นๆ ปกติตามประสา***โลกในธรรมชาติ เช่น แพะ หรือ เหยี่ยว  ทำให้นักวิชาการอดที่จะตั้งสมมุติฐานไม่ได้ว่า บางทีเลวีอาธานอาจเป็น***โลกสามัญธรรมดา เฉกเช่น***อื่นๆ ก็เป็นได้  ซึ่งหนึ่งในบรรดา***ที่ถูกยกมาตั้งสมมุติฐานว่าอาจเป็นต้นแบบของเลวีอาธานก็เป็นได้ คือ จระเข้ขนาดใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำไนล์ มีคุณลักษณะหลายอย่างที่อาจเทียบเคียงได้กับเลวีอาธาน ตัวอย่างเช่น ธรรมชาติของมันที่เป็น***น้ำขนาดใหญ่ที่มีเขี้ยวอันแหลมคม และ เต็มไปด้วยความดุร้ายน่าเกรงขาม จากบทของโยบข้างต้น ได้บรรยายตาของเลวีอาธานเอาไว้ว่า ตาของมันเหมือนอย่างแสงอรุณรุ่งเช้า”  ซึ่งนักวิชาการบางคนได้ลองเปรียบเทียบโคลงท่อนดังกล่าวเข้ากับดวงตาของจระเข้ ซึ่งมักจะปรากฏผุดโผล่ขึ้นมาจากน้ำเป็นส่วนแรกที่เราเห็น ก่อนจะเห็นร่างกายหรือศีรษะส่วนที่เหลือของจระเข้เสียอีก ซึ่งนั่นอาจเปรียบเทียบได้กับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ผุดขึ้นมาจากเส้นขอบฟ้านั่นเอง แต่หากพิจารณาโดยใช้โคลงบทเดียวกันนี่เอง  บทต่อมาได้บรรยายเลวีอาธันไว้ว่ามีลมหายใจเป็นไฟราวกับมังกรไฟ ซึ่งหากพิจารณาเช่นนี้แล้ว จระเข้แห่งลุ่มน้ำไนล์จะแตกต่างกับเลวีอาธานอย่างสิ้นเชิง และแน่นอนคำบรรยายที่ปรากฏในพระคัมภีร์ส่วนอื่นๆ ก็ดูจะไม่สอดคล้องกับจระเข้แห่งลุ่มน้ำไนล์ด้วยวาฬขนาดยักษ์ เป็นอีกข้อสันนิษฐานหนึ่ง ที่เชื่อว่าอาจเป็นแหล่งที่มาของเลวีอาธานได้ และหลายครั้งในอดีต กะลาสีเรือชาวยุโรปก็ประสบกับวาฬ หรือ***ทะเลขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างเยี่ยงมังกรหรืองูขนาดยักษ์ ที่ใหญ่โตมากขนาดที่ว่า แค่การว่ายไปมาของมันในมหาสมุทร ก็เพียงพอที่จะสร้างวังน้ำวนขนาดยักษ์ ที่ใหญ่พอที่จะกลืนเรือทั้งลำลงไปได้อย่างง่ายดายไดโนเสาร์ หรือสิ่งมีชีวิต ***ในยุคดึกดำบรรพ์ก่อนประวัติศาสตร์ ก็เป็นอีกความเป็นไปได้หนึ่งที่ถูกต้องข้อสมมุติฐานขึ้นมา ข้อสมมุติฐานนี้เชื่อว่าเลวีอาธานเป็นไดโนเสาร์ในสายตระกูล พาราซอว์ออโลฟุส  หรือเป็น***เลื้อยคลานขนาดยักษ์ที่อาศัยในน้ำ อย่าง โครโนเซารัส   แต่แม้กระนั้นก็ดี แม้อาจจะอธิบายเรื่องขนาดอันใหญ่โตหรือรูปลักษณ์ที่ปรากฏของมันได้ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดที่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไม เลวีอาธานมีลมหายใจเป็นไฟ สามารถพ่นไฟได้อยู่ดี 



เบเฮโมท

อสูรร้ายดึกดำบรรพ์ จ้าวแห่งผืนปฐพีเช่นเดียวกับ เลวีอาธานจ้าวแห่งผืนน้ำ และ ซิซจ้าวแห่งผืนนภา ชื่อเบเฮโมท มาจากภาษาฮีบรู Behemot มีความหมายหมายถึงอสูรกาย ***ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก คำดังกล่าวยังถูกใช้เปรียบเทียบกับสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเกินกว่าจะเปรียบเทียบได้ด้วย 
และแน่นอน เบเฮโมทเป็นอสูรกายโบราณที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์บทหนังสือของโยบเช่นเดียวกัน
จากหนังสือของโยบ บทที่ 40 ข้อ 15-24ดูเบเฮโมทเถิด ซึ่งเราได้สร้างอย่างที่เราได้สร้างเจ้า มันกินหญ้าเหมือนวัว  ดูเถิด กำลังของมันอยู่ในเอว และฤทธิ์ของมันอยู่ในกล้ามเนื้อท้อง มันขยับหางของมันให้แข็งเหมือนไม้สนสีดาร์ เอ็นโคนขาของมันก็สานเข้าด้วยกันกระดูกของมันเหมือนท่อนทองเหลือง และกระดูกของมันเหมือนท่อนเหล็ก มันเป็นพระราชกิจชิ้นที่สำคัญของพระเจ้า ผู้ทรงสร้างมันนำดาบมาให้ภูเขาผลิตอาหารให้มันแน่ เป็นที่ที่***ป่าทุ่งทุกชนิดเล่นมันนอนอยู่ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา ในเพิงอ้อและในบึงต้นไม้ที่มีร่มเงาเป็นเงาคลุมมัน ต้นหลิวแห่งธารน้ำล้อมมันไว้ดูเถิด มันดื่มแม่น้ำจนหมดและไม่รีบหนีไป มันวางใจว่าจะดูดแม่น้ำจอร์แดนเข้าใส่ปากมันมันจ้องตาดูแม่น้ำ จมูกมันทะลุผ่านบ่วงทั้งหลายได้"เบเฮโมท กับ เลวีอาธานตามความเชื่อของชาวยิวโบราณ เบเฮโมทเป็นอสูรกายดึกดำบรรพ์แห่งผืนภพ ขณะที่เลวีอาธานเป็นอสูรกายดึกดำบรรพ์แห่งผืนนที และซิซครอบครองผืนนภา มีตำนานกล่าวว่า เลวีอาธาน กับ เบเฮโมท จะต่อสู้ทำศึกกันในวาระสุดท้ายของโลก โดย เบเฮโมท คือ วัว และ เลวีอาธาน คือปลา ทั้งคู่จะเข้าห้ำหั้นกัน โดยกำลังของเบเฮโมทอยู่ในเขาอันทรงพลัง ขณะที่เลวีอาธานอยู่ในครีบ และสุดท้ายทั้งคู่จะฆ่ากันและกัน ส่วนมนุษย์ที่เหลือรอดจะจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่จากเนื้อจำนวนมหาศาลของมัน  ขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นว่า พระผู้สร้างจะเสด็จลงมาพร้อมด้วยดาบอันทรงฤทธานุภาพและสังหารมันทั้งคู่ลงเสียเบเฮโมท ในฐานะ***ประหลาดเช่นเดียวกับเลวีอาธาน ที่นักวิชาการพระคัมภีร์จะพยายามตั้งสมมุติฐานถึงเบเฮโมทในฐานะสิ่งมีชีวิต ***ปกติอย่างหนึ่งในโลก ซึ่ง***โลกที่ถูกตั้งข้อสมมุติฐานว่าอาจเป็นที่มาของเบเฮโมทก็ได้นั้น ได้แก่ ควายน้ำ แรด วัว และ ช้าง  แต่ที่เชื่อและได้รับการยอมรับกันมากที่สุดคือ ฮิปโปโปเตมัส  เพราะในพระคัมภีร์บทหนังสือของอิศยาห์เอง ก็มีการแปลความตัว ฮิปโปโปเตมัส เป็น  Bahamat Negeb หรือ อสูรแห่งทิศใต้”   แต่กระนั้นก็ดี นักวิชาการบางส่วนก็ยังไม่เชื่อในข้อสันนิษฐานนั้น โดยยกประเด็นเรื่องหางมาเป็นข้อโต้แย้ง จากบทบรรยายที่พูดถึงหางที่แกว่งไกวไปมาเหมือนไม้สนซีดาร์ในพระคัมภีร์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะสื่อถึงช้างเสียมากกว่าส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่มีความเห็นแตกต่างกัน เชื่อว่าเบเฮโมทน่าจะเป็น***ดึกดำบรรพ์เยี่ยงไดโนเสาร์เสียมากกว่า โดยเฉพาะไดโนเสาร์ในตระกูล ซอร์รอพอด ที่มีลักษณะหลายอย่างตรงตามบทบรรยายของโยบ เช่น เรื่องของขนาดอันใหญ่โต กระดูกเหมือนท่อนเหล็ก ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และหางที่แกว่งเหมือนไม้สนซีดาร์  แต่กระนั้นก็ดี ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่สอดคล้องหลายประการ ทั้งจากหลักฐานทางฟอซซิล และบทบรรยายว่า เบเฮโมท กินหญ้าเป็นอาหารเยี่ยงวัวอีก ซึ่งขัดกับลักษณะฟันและธรรมชาติของซอร์รอพอด



เลวีอาธาน กับ เบเฮโมท ในสื่ออื่นๆมีเกมการ์ตูนจำนวนไม่น้อยที่ให้บทบาทแก่เจ้าอสูรกายทั้ง 2 นี้ ที่ชัดเจนและเป็นที่จดจำกันมากที่สุดเกมหนึ่ง คงหนีไม่พ้น Final Fantasy ที่มี เลวีอาธาน เป็นอสูรมายาแห่งท้องทะเล ให้จอมเวทย์อัญเชิญได้เรียกหามาใช้งานปลดปล่อยคลื่นทำลายล้างอยู่ร่ำไป ส่วน เบเฮโมท ก็เป็น Monster ระดับสูงประจำ Series นี้มาแต่ช้านานแล้ว มักจะปรากฏตัวในช่วงครึ่งหลังของเกมด้วยพลังชีวิตและความแข็งแกร่งที่สูง และมัก Counter การโจมตีกลับอย่างรุนแรงหรือร่าย Meteor กลับใส่เราเป็นการตอบโต้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคอเกมคอการ์ตูนหลายๆ คน ได้ยินคุ้นหู และเริ่มรู้จักชื่อของเจ้าอสูรกายทั้ง 2 นี้มาจากเกมนี้ไม่น้อยจริงๆ 
ซิซ

คุณลักษณะทั่วไปของซิซ
    ซิซ เป็นคำภาษาฮีบรู เป็นอสูรกายในตำนาน เป็นนกยักษ์รูปร่างคล้ายกริฟฟิน ที่ปรากฏในตำนานของทางยิว ความใหญ่โตโอฬารของมันนั้นใหญ่มากชนิดถึงกับมีการบรรยายเอาไว้ว่า หากซิซสยายปีกออกมาเต็มที่เมื่อใด เมื่อนั้น ปีกทั้งหมดของมันสามารถปิดปกคลุมแสงอาทิตย์ทั้งหมดที่ส่องลงมาได้เลย  ซิซ ถือว่าเป็นอสูรกายโบราณ จอมราชันย์แห่งผืนนภาผู้ปกครองฟ้าอันกว้างใหญ่ เช่นเดียวกับ ราชันย์จ้าวแห่งมาหสมุทร เลวีอาธาน และราชันย์ จ้าวแห่งพิภพ เบเฮโมท นั่นเอง    มีบางตำนานกล่าวไว้ว่า ซิซคือราชันย์แห่งมวลหมูวิหค การถือกำเนิดและการคงอยู่ของมันมีไว้เพื่อมวลหมู่วิหคทั้งมวลในนภากาศ เป็นผู้พิทักษ์ปกป้องมวลหมู่วิหคทั้งมวล  หากหาไม่แล้ว หากซิซไม่ได้ดำรงอยู่ มวลหมู่วิหคทั้งหลาย โดยเฉพาะนกตัวเล็กๆ ที่อ่อนแอและไม่อาจป้องกันตัวเองได้ จะถูกล่า และถูกฆ่าเสียหมดจนเ***้ยนเตียน ดังนั้นสำหรับมนุษย์แล้ว ซิซคืออสูรกายยักษ์อมตะที่น่าหวั่นสะพรึง ที่พร้อมจะเป็นภัยคุกคามสำหรับมนุษย์ทุกผู้ที่ก้าวย่างล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของมัน หรือรังแกทำร้ายบรรดานกมวลหมู่วิหคทั้งหลาย


[size=120]วิหคยักษ์ ซิซ ในผลงานหนังสือสำหรับเด็
  มีตำนานกล่าวว่า เลวีอาธาน กับ เบเฮโมท จะต่อสู้ทำศึกกันในวาระสุดท้ายของโลก โดย เบเฮโมท คือ วัว และ เลวีอาธาน คือปลา ทั้งคู่จะเข้าห้ำหั้นกัน โดยกำลังของเบเฮโมทอยู่ในเขาอันทรงพลัง ขณะที่เลวีอาธานอยู่ในครีบ และสุดท้ายทั้งคู่จะฆ่ากันและกัน ส่วนมนุษย์ที่เหลือรอดจะจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่จากเนื้อจำนวนมหาศาลทั้งจากของ เลวีอาธาน เบเฮโมท และ ซิซ  ซึ่งในตำนานทางเปอร์เซียก็มีตำนานที่ใกล้เคียงกับเนื้อหาดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานเลี้ยงครั้งใหญ่หลังมหาสงครามของอสูรกาย ที่เนื้อของพวกมันจะกลายเป็นอาหารมื้อใหญ่ของงานเลี้ยง  ขณะที่แหล่งข้อมูลอื่นว่า พระผู้สร้างจะเสด็จลงมาพร้อมด้วยดาบอันทรงฤทธานุภาพและสังหารมันทั้งคู่ลงเสีย

ซิซ เปรียบเทียบกับ***ในตำนานอื่นๆ
    ซิซ อาจเปรียบได้กับ คาร์ หรือ คารา หรือ***ในตำนานประเภทนกอื่นๆ (โดยละเลยต่อข้อจำกัดเรื่องขนาดที่แตกต่างของมัน) เช่นเดียวกับ***หรือวิหคในตำนานอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับซิซในแง่ต่างๆ ทั้งความเหมือนต่าง คล้ายคลึงและสอดคล้อง และในบรรดานั้น ซิเมิร์ก และ ร็อก เป็นวิหคในตำนานที่นิยมนำมาเปรียบเทียบร่วมกับซิซ
    ซิเมิร์ก หรือ ซิมอร์ก เป็นชื่อของวิหคเหิรเวหาในตำนานของทางเปอร์เซีย ซึ่งรูปร่างลักษณะต่างๆ ของมันสามารถพบได้ดาษดื่นทั่วไปในผลงานงานประพันธ์และผลงานศิลปะของอิหร่านในยุครุ่งเรือง และหลักฐานที่บ่งบอกถึงการดำรงอยู่ของซิเมิร์กในศิลปะงานประพันธ์ต่างๆ ก็ปรากฏพบได้จากแผนภาพนูนต่ำในช่วงยุคกลางของอาร์เมเนีย ไบเซนเที่ยม และในเขตรอบนอกวงแหวนอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากทางอิหร่าน
    ร็อค หรือ รูค เป็นอีกหนึ่งวิหคที่มีประวัติที่มาจากตำนาน เป็นนกขนาดใหญ่มักจะมีสีขาว เลื่องลือว่ามีขนาดใหญ่โตและแข็งแรงขนาดที่ว่าช้างเป็นๆ ทั้งตัว ขึ้นไปจับฉีกกินในอากาศได้เลยทีเดียว  ชื่อร็อค หรือ รูค หรือ โร๊ค นี้มาจากทางเปอร์เซีย ประวัติที่มาที่ไปอันแน่นอนเกี่ยวกับเรื่องร็อคนี้ยังไม่เด่นชัดนัก ขณะที่บางแหล่งข้อมูลก็เชื่อว่า ร็อค นี้อาจเป็น***ในตำนานที่ถูกขนานนามสร้างขึ้นมาจาก วิหค นกที่มีอยู่จริง มาปั้นเสริมเติมแต่งให้เกินจริงก็เป็นได้  ซึ่งข้อสันนิษฐานแหล่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือนกในช่วงต้นของศตวรรษที่ 8 จากผลงานการประพันธ์ของนักเขียนทางตะวันออกกลางคนหนึ่ง  นอกจากนี้เคยมีรายงานว่ามีผู้พบเห็นนกที่อ้างกล่าวถึงนี้จริงในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ได้ไปแวะไปเที่ยวในละแวกเขตมหาสมุทรอินเดีย 
    นอกจากภาพลักษณ์ของซิซที่เป็นวิหคยักษ์ อสูรกายในตำนานแล้ว ซิซยังมีภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนและเป็นมิตรอยู่ด้วย นั่นคือวิหคยักษ์ซิซ ที่มีชีวิตปรากฏอยู่ในผลงานหนังสือสำหรับเด็ก ผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานของ เยอร์ทรู๊ด แลนดา (หรือรู้จักกันในนาม ป้านาโอมิ) เป็นผลงานในปี 1919 ที่รวมนิทาน ตำนาน เทพนิยาย ของตำนานทางยิวเอาไว้  นอกจากนี้จากหนังสืออีก 2 เล่มที่คบลอดตามหลังมา คือ หนังสือเรื่อง The Ziz และ The Hanukkah Miracle ก็ยิ่งตอกย้ำและทำให้เรื่องราวของซิซดำรงอยู่ต่อเนื่องในฐานะตัวละครที่มีเสน่ห์และเป็นที่รู้จักตัวหนึ่งในผลงานหนังสือ และงานเขียนสำหรับเด็ก  เช่นเดียวกับการปรากฏในหนังสือของ แจ๊คเคไลน์ จูเลซ ที่ได้ แคทเธอรีนมาวาดภาพประกอบด้วย (ทั้งหมดพิมพิ์และจัดจำหน่ายโดย คาร์เบน) ส่วนผลงานที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ที่เกี่ยวกับซิซก็เช่น The Hardest Wood, Noah and the Ziz, The Ziz And the Hanukkah Miracle and The Princess and the Ziz   ซิซในผลงานดังกล่าวหาใช่อสูรกาย วิหคยักษ์ที่ดุร้ายหรือทำร้ายมนุษย์ไม่ หากแต่เป็นวิหคยักษ์ที่มีจิตใจงดงาม ที่ได้รับบทเรียนจากพระเจ้า  
อนึ่ง

Leviathan อ่านตามหลักภาษาฮีบรูว่า เลวีอาธาน นะจ้ะ ไม่ใช่ลีเวียธาน ลิไวอาซัน ที่หลายๆ สื่อใช้ผิดแต่อย่างใด
Behemoth อ่านว่า เบเฮโมท จ้ะ ไม่ใช่ เบฮีโมท  นะจ้ะ
Ziz อ่านว่า Ziz ตรงตัว

เครดิต  http://www.thaigamernetwork.com/modules/f/index.php?topic=286.0















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น